ขอแสดงความเห็นดังนี้ครับ
1. การที่ใช้สายอากาศภายนอกทั้งสองฝั่งนั้นย่อมดีกว่าฝั่งเดียวอยู่แล้วเพราะมีการขยายสัญญาณทั้งสองฝั่ง จึงไปได้ไกลกว่าสายอากาศที่ติดตั้งเพียงฝั่งเดียว (ถ้าท่านที่เคยใช้สูตรคํานวณตามเว็บต่างๆ จะเห็นภาพชัดในข้อนี้)
2. แต่การใช้สายอากาศด้านเดียวเพื่อนทำ hotspot นั้นไม่ได้ทำให้สัญญาณลดลงหรือส่งไปถึงแต่ปลายทางส่งกลับมาไม่ได้แต่อย่างใด เพราะสายอากาศส่วนใหญ่มีอัตราขยายของมัน จึงมีแต่ทำให้สัญญาณแรงขึ้น แต่จะแรงขึ้นเท่าไรหรือมีทิศทางแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับอัตราขยาย คุณภาพสายอากาศ และ Radiation pattern และธรรมชาติของสายอากาศมีอัตราขยายสองทางคือมีการขยายทั้งภาครับและส่ง อย่างเช่นสายอากาศทีวีหรือจานดาวเทียมตามบ้านที่ไม่ได้ใช้ขยายภาคส่ง แต่ใช้ขยายภาครับสัญญาณโทรทัศน์ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า สายอากาศขยายภาครับด้วย ไม่ใช้ทําให้ส่งไกลอย่างเดียว
3. สายอากาศภายนอกหรือภายในอาคารจริงๆ แล้วก็คือสายอากาศเหมือนกันมีวิธีการออกแบบ สูตรการสร้างเหมือนกัน ถ้าจะเหมาว่าดีหรือไม่ดีก็ต้องไปด้วยกัน ต่างแค่ว่าภายนอกจะออกแบบให้ทนแดดทนฝนได้ราคาสูงกว่า อัตราขยายหรือ Radiation pattern อาจต่างกันตามการใช้งานที่ไม่เหมือนภายในอาคาร แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าสายอากาศภายในดี แต่ภายนอกไม่ดี เพราะมันก็คือสายอากาศเหมือนกัน เช่นแท่งๆ ที่โผล่มาจาก Access point, router ก็คือสายอากาศเหมือนกัน แต่การใช้สายอากาศนั้นมีความซับซ้อนพอสมควรในเรื่องของ Radiation pattern, Polarization, Beam width, Gain, Multi-path จึงต้องใช้คนมีความชำนาญในการเลือกใช้และติดตั้ง โดยเฉพางานในอาคารหรือ hotspot
4. สรุปง่ายๆ ถ้าสายอากาศภายนอกอาคารไม่ดี ไม่ได้ช่วยอะไร หรือติดตั้งด้านเดียวไม่มีประโยชน์ ทำไมสถานีโทรทัศน์จึงใช้สายอากาศภายนอกดีๆ ต้นเป็นล้าน ทั้งที่ปลายทางก็มีสายอากาศภายนอกบ้างไม่มีบ้าง หรือที่ชัดกว่านั้นสถานีโทรศัพท์มือถือ ทำไมต้องใช้สายอากาศ Outdoor sector, Flat panel หรือ omni ทั้งที่ปลายทางคือมือถือ ซึ่ง 99% ไม่มีสายอากาศภายนอก แสดงให้เห็นอีกประเด็นว่าการติดตั้งสายอากาศภายนอก ไม่จําเป็นต้องติดทั้ง 2 ฝั่งก็ยังได้รับประโยชน์จากสายอากาศภายนอกอาคารเช่นเดียวกัน แต่ต้องเลือกใช้อย่างถูกต้อง
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วย หากท่านใดมีข้อเสนอแนะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ครับ
email:
info@bangkokwireless.net